ความคืบหน้าของโครงงาน
ได้เรียบเรียงเนื้อหาในโครงงานและใส่รายละเอียดได้เกือบ 50%
1. ปรึกษาหารือภายในกลุ่ม
2. เก็บรวบรวมรายละเอียดและวิเคราะห์
3. กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขอบเขตฐานข้อมูล
ความคืบหน้าของโครงงาน
ได้เรียบเรียงเนื้อหาในโครงงานและใส่รายละเอียดได้เกือบ 50%
1. ปรึกษาหารือภายในกลุ่ม
2. เก็บรวบรวมรายละเอียดและวิเคราะห์
3. กำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขอบเขตฐานข้อมูล
ความคืบหน้าของโครงงาน
ได้เรียบเรียงเนื้อหาในโครงงานและใส่รายละเอียดได้เกือบ 80%
1. ได้เก็บข้อมูลอะไรบ้างในฐานข้อมูลต้องการสืบค้นข้อมูลอะไรบ้าง ต้องการแสดงรายงานอะไรบ้าง
2. ออกแบบฐานข้อมูลตามความต้องการที่ผ่านการวิเคราะห์แล้ว
ความคืบหน้าของโครงงาน
1. เริ่มประชุมเรื่องที่จะเลือกหัวข้อในการทำโครงงาน
2. เลือกหัวข้อการทำโครงงาน
นักศึกษาได้ไปสังเกตการณ์สอนสัปดาห์แรก
ได้สอบถามครูพี่เลี้ยงเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลที่เราต้องการศึกษา
รวยรวมเนื้อหาของระบบฐานข้อมูล
นักศึกษาได้ไปสังเกตการณ์สอนสัปดาห์แรก
ได้สอบถามครูพี่เลี้ยงเกี่ยวกับระบบฐานข้อมูลที่เราต้องการศึกษา
👉คำสั่ง IN
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
SELECT TOP number|percent column_name(s) *(s)= สามารถทำได้หลายๆคอลลัม*
FROM table_name WHERE condition;
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers FETCH FIRST 3 ROWS ONLY;
👉 Min And Max : Min หาค่าน้อยที่สุด และ Max หาค่ามากที่สุด ในคอลลัม
**จะใช้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขเท่านั้น**
ตัวอย่าง
SELECT MIN(column_name) FROM table_name WHERE condition;
SELECT MIN(Price) AS SmallestPrice FROM Products;
*As = หาเจอแล้วเป็นคอลลัมใหม่,ชื่อเทียม*
ตัวอย่าง
SELECT MAX(column_name) FROM table_name WHERE condition;
SELECT MAX(Price) AS LargestPrice FROM Products;
ตัวอย่าง
ถ้าหากอยากทราบว่าราคานั้นอยู่ในคอลลัมไหน
Select * from [Products] where price = 263.3; *263.3=ค่าที่รันก่อนหน้า*
Select * from [Products] where price >= 50 and 100;
👉 Count,AVG,SUM
👉 Count : นับจำนวน ต้องอยู่ก่อน from
ตัวอย่าง
SELECT COUNT(ProductID) FROM Products;
Select Count * from products where price = 18; ค่าที่อยู่ระหว่าง 50>=100
👉 AVG : ค่าเฉลี่ย ต้องเป็นตัวเลขเท่านั้น
ตัวอย่าง
SELECT AVG(Price)FROM Products;
👉 SUM : การหาผลรวม ต้องเป็นตัวเลขเท่านั้น
ตัวอย่าง
SELECT SUM(Quantity) FROM OrderDetails;
👉 Like : ใช้เพื่อค้นหารูปแบบที่ระบุในคอลลัม
เครื่องหมาย
a% = ขึ้นต้นด้วย a ด้านหลังตัวอักษรอะไรก็ได้
%a = ด้านหน้าตัวอักษรอะไรก็ได้ แต่ด้านหลังต้องเป็น a
%a% = ด้านหน้าและด้านด้านหลังตัวอักษรอะไรก็ได้ แต่ตรงกลางต้องเป็น a
* เช่น ตามหาคำที่ขึ้นด้วยอักษร a *
% = อักขระ 0 หนึ่งตัวหรือหลายตัวหรือไม่มีก็ได้
() = หนึ่งตัวอักขระเดียว
_ = หนึ่งอักขระเท่านั้น
_ _ = อักขระ 2 ตัว
ตัวอย่าง
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers WHERE CustomerName LIKE 'a%';
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers WHERE CustomerName LIKE '%a';
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers WHERE CustomerName LIKE '%or%';
Wildcards : สัญลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง (คล้ายกับ Like)
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers WHERE City LIKE 'ber%';
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers WHERE City LIKE '%es%';
👉 IN : แทน or
ถ้า or
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers WHERE Country IN ('Germany', 'France', 'UK');
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers WHERE Country IN (SELECT Country FROM Suppliers);
การใช้คำสั่ง SQL
👉 Select : แสดงข้อมูลตารางที่ต้องการ
ตัวอย่าง
SELECT column1, column2, ...
FROM table_name;
👉 Select * : แสดงข้อมูลทุกตารางและคอลัมที่ต้องการ
ตัวอย่าง
SELECT * FROM table_name;
👉 From : แสดงตารางที่มีเขตข้อมูลที่ปรากฎอยู่ในส่วนคำสั่ง Select
👉 Where : เปรียบเทียบ หรือระบุเขตข้อมูลที่ใช้เลือกระเบียนที่จะรวมอยู่ในผลลัพธ์
👉 SQL And , or , not (Combined = เชื่อมโยงหรือเชื่อมเงื่อน)
ตัวอย่าง
Select * From
Where Country = 'Germany' And City = 'Berlin';
👉 Order By : จัดเรียงข้อมูล
- ASC = น้อยไปมาก
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers
ORDER BY Country ASC;
- DESC = มากไปน้อย
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers
ORDER BY Country DESC;
👉 INSERT INTO : เพิ่มข้อมูลลงไปในฐาน
(สามารถทำได้ครั้งละ 1 เรคอด ถ้าหากจะทำหลายเรคอดต้องทำเป็นวนลูป ส่วนใหญ่ไม่นิยมใช้)
ตัวอย่าง
INSERT INTO table_name (column1, column2, column3, ...)
VALUES (value1, value2, value3, ...);
ตัวอย่าง
INSERT INTO Customers (CustomerName, City, Country)
VALUES ('Cardinal', 'Stavanger', 'Norway');
** VALUES : ค่าที่จะเพิ่มเข้าไป **
👉 Null Values : เช็คค่าว่าง
-Is null = ไม่มี (ตรวจที่ว่าง แล้วไม่มีที่ว่าง)
-Is not null = มี (ตรวจแล้วมีค่า)
ตัวอย่าง
SELECT column_names
FROM table_name
WHERE column_name IS NULL;
ตัวอย่าง
SELECT CustomerName, ContactName, Address
FROM Customers
WHERE Address IS NULL;
👉 Update : ปรับปรุงหรือแก้ไขข้อมูล
- การแก้ไขข้อมูลที่มีอยู่แล้ว หรือปรับปรุงจากข้อมูล โดยยึดหลักจากข้อมูลเดิมที่มีอยู่แล้วมาแก้ไข
ตัวอย่าง
UPDATE table_name
SET column1 = value1, column2 = value2, ...
WHERE condition;
ตัวอย่าง
UPDATE Customers
SET ContactName='Juan'
WHERE Country='Mexico';
ตัวอย่าง
UPDATE Customers
SET ContactName = 'Alfred Schmidt', City= 'Frankfurt'
WHERE CustomerID = 1;
👉 Delete : การลบข้อมูล
-ใช้คำสั่ง Delete เมื่อต้องการลบข้อมูลทั้งเรคอด(ลบทั้งแถว)
-ถ้าหากว่ามีชื่อซ้ำจะลบหมดเลย พอลบออกเสร็จแล้วจะขึ้น Rows affected : 1 หรือ 1 = แสดงค่าที่ลบออก
-ไม่สามารถกู้คืนได้
ตัวอย่าง
DELETE FROM table_name WHERE condition;
ตัวอย่าง
DELETE FROM Customers WHERE CustomerName='Alfreds Futterkiste';
👉 Select Top : เป็นคำสั่งที่ใช้ในการระบุจำนวน เรคอด ที่เราต้องการจะดู
ตัวอย่าง
SELECT TOP number|percent column_name(s) *(s)= สามารถทำได้หลายๆคอลลัม*
FROM table_name
WHERE condition;
ตัวอย่าง
SELECT * FROM Customers
FETCH FIRST 3 ROWS ONLY;
👉 Min And Max : Min หาค่าน้อยที่สุด และ Max หาค่ามากที่สุด ในคอลลัม
**จะใช้ข้อมูลที่เป็นตัวเลขเท่านั้น**
ตัวอย่าง
SELECT MIN(column_name)
FROM table_name
WHERE condition;
SELECT MIN(Price) AS SmallestPrice
FROM Products;
*As = หาเจอแล้วเป็นคอลลัมใหม่,ชื่อเทียม*
ตัวอย่าง
SELECT MAX(column_name)
FROM table_name
WHERE condition;
SELECT MAX(Price) AS LargestPrice
FROM Products;
ตัวอย่าง
ถ้าหากอยากทราบว่าราคานั้นอยู่ในคอลลัมไหน
Select * from [Products] where price = 263.3; *263.3=ค่าที่รันก่อนหน้า*
Select * from [Products] where price >= 50 and 100;
👉 Count,AVG,SUM
พัฒนาระบบฐานข้อมูล
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง คือ การได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนและรวดเร็ว โดยใช้ระบบสารสนเทศเป็นเครื่องมอในการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของสารสนเทศ ที่พร้อมใช้งานได้ทันที่โดยข้อมูลต้องมีความถูกต้อง