สรุปผลการเรียนรู้ที่ 2
สถาปัตยกรรมระบบฐานข้อมูล
สถาปัตยกรรมฐานข้อมูลนี้จะถูก แบ่งออกเป็น 3 ระดับ
1. ระดับความคิด (Conceptual Level) เป็นระดับการกำหนดรูปแบบข้อมูล ขนาดของข้อมูล และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลใช้วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศเป็นระดับกาออกแบบฐานข้อมูล
2. ระดับภายนอก (External Level) เป็นระดับการกำหนดโครวสร้างข้อมูลสำหรับผู้ใช้ใช้เก็บข้อมูลจริงกล่าวถึงมุมมอง ที่มีต่อข้อมูลของผู้ใช้แต่ละคน
3.ระดับภายใน (Internal Level) เป็นระดับของการจัดเก็บข้อมูลในหน่วยเก็บข้อมูลจริง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับโครงสร้างทางกายภาพของข้อมูล ผู้ใช้แต่ละคนมีการมองภาพของข้อมูลที่แตกจ่างกัน
แบบจำลองฐานข้อมูลมี 3 แบบ
1. แบบจำลองลำดับชั้น มาจากโครงสร้างต้นไม้ (Hierarchical Model) แบบลำดับ
โครงสร้างฐานข้อมูลแบบลำดับขั้น
จะมีลักษณะคล้ายต้นไม้ทีว่ำหัวลง
ลักษณะคล้ายๆโครงสร้างต้นไม้ (Tree Structure) มีการสืบทอดเป็นลำดับชั้น โหนดสูงสุดจะเรียกว่าราก (Root) โหนดระดับล่างลงมาจะเรียกว่า (Leaves) เรียกฐานข้อมูลในระดับนี้อีกชื่อหนึ่งว่าซิกเมนต์ (Segment) เปรียบได้กับเรคอร์ดในระบบแฟ้มข้อมูล เซกเมนต์ที่อยู่ระดับล่างลงไปก็คือเซกเมนต์ก่อนหน้า ความสัมพันธ์เป็นแบบ 1:M กล่าวคือ โหนดบนจะแตกโหนดลูกได้หลายๆโหนด ในขณะที่โหนดลูกจะมีโหนดบนเพียงโหนดเดียวเท่านั้น
โดยลักษณะของฐานข้อมูลจะประกอบไปด้วย
1. แบบหนึ่งต่อหนึ่ง : นักศึกษาหนึ่งคนจะมีสูติบัตรเพียงใบเดียวเท่านั้น และสูติบัตรหนึ่งใบก็เป็นของนักศึกษาได้เพียงหนึ่งคนเท่านั้นเช่นกัน
2.แบบหนึ่งต่อกลุ่ม : นักษา 1 คนสามารถลงทะเบียนได้หลายวิชา หรือ 1 หลักสูตรมีนักศึกษาลงทะเบียนได้หลายคน
3.ไม่มีแบบกลุ่มต่อกลุ่ม
2. แบบจำลองเครือข่ายมาจากทฤษฎีเซต (Network Model) แบบเครือข่าย
ข้อมูลในฐานข้อมูลแบบนี้สามารถมีความสัมพันธ์กับแบบใดก็ได้ เช่น อาจเป็นแบบหนึ่งต่อหนึ่ง หนึ่งต่อกลุ่ม หรือกลุ่มต่อกลุ่ม ตัวอย่างของฐานข้อมูลแบบนี้เช่น การสั่งซื้อสินค้าจากร้านผู้ผลิตสินค้าและการนำสินค้าไปเก็บในคลังสินค้า ซึ่งจะแสดงความสัมพันธ์ระหว่างระเบียนร้านผู้ผลิตสินค้า และระเบียนสินค้า และความสัมพันธ์ระหว่างระเบียนสินค้าและระเบียนที่เก็บสินค้า ได้โดยการใช้ลูกศรเชื่อมโยงเช่นกัน
3. แบบจำลองเชิงสัมพันธ์มาจากพีชคณิตเชิงสัมพันธ์ (Relational Model) แบบเชิงสัมพันธ์
รูปแบบเชิงสัมพันธ์เป็นรูปแบบที่คนมักนิยมใช้
พัฒนาการของบันทึกจัดเก็บข้อมูลเริ่มต้นจากจัดเก็บแบบแฟ้มลำดับ (Sequential file) ก่อนจะมีการพัฒนาแบบจำลองฐานข้อมูล (Database) แบบต่าง ๆ
ข้อดีและข้อเสียของแฟ้มลำดับ
ข้อดี : เรียบร้อย
ข้อเสีย : การเรียกค้นหาทำได้ยาก , ข้อมูลซับซ้อน
แบบจำลองลำดับชั้น (Hierarchical models)
ข้อดี : ลดความซับซ้อนได้บางส่วน
ข้อเสีย : แอพลิเคชั่นไม่เป็นอิสระจากข้อมูล
แบบจำลองเครือข่าย (Network models)
ข้อดี : สามารถแก้ไขปัญหาความซับซ้อนได้
ข้อเสีย : แอพลิเคชั่นไม่เป็นอิสระจากข้อมูล
แบบจำลองเชิงสัมพันธ์ (Relational models)
ข้อดี : โครงสร้างเรียบร้อย , มีภาษา SQL เป็นเครื่องมือ
ข้อเสีย : เกิดความซับซ้อนในฟิลด์ที่เป็นคีย์